Clubhouse แอพพลิเคชั่นยอดฮิตแห่งปี

Clubhouse แอพพลิเคชั่นยอดฮิตแห่งปี

ในชั่วโมงนี้คงปฏิเสธไม่ได้ถึงความร้อนแรงของแอพพลิเคชั่นยอดฮิตน้องใหม่ที่ชื่อว่า Clubhouse ที่ใช้ในการประชุม พูดคุยเป็นกลุ่ม โดยได้ยินเฉพาะเสียงเท่านั้น ซึ่งจุดเริ่มต้นของการดังเป็นพลุแตกจนมียอดดาวน์โหลดแอปนี้ต่อวันจากเมื่อก่อนประมาณหลักพันคนจนในตอนนี้เป็นหลักล้านคนไปแล้วนั้นเกิดจากการที่ Elon Musk ซีอีโอของ  Tesla ได้ใช้แอปนี้เพื่อพูดคุยกับ Vladimir Tener ผู้จัดการแอปสำหรับซื้อขายหุ้น Robinhood เกี่ยวกับการปั่นหุ้นที่ชื่อ GameStop จึงเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกไม่ว่า Elon Musk จะทำอะไรก็ตาม

Clubhouse แอพพลิเคชั่นยอดฮิตแห่งปี

ซึ่งสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแอป Clubhouse มีดังนี้

  1. เกิดจากผู้ก่อตั้งเพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งก็คือ โรฮาน เซ็ธ และพอล เดวิสัน โดยที่ผ่านมามีพนักงานเพียง 9 คน เท่านั้น ในการพัฒนา ปรับปรุง แก้ไขระบบต่างๆให้ดียิ่งขึ้น
  2. แอปนี้ยังใช้ได้แต่ระบบ IOS ส่วนในระบบ Android ยังไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากพัฒนาไม่ทันจากการที่ Clubhouse เติบโตอย่างสูงมากๆในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น
  3. และเนื่องจากไม่สามารถหาดาวน์โหลดได้เองจาก App Store แต่จะได้จากการเชิญของผู้ที่ได้เป็นสมาชิกก่อนหน้านี้ ( 1 คน สามารถเชิญคนอื่นได้อีก 2 คน ) จึงยิ่งทำให้น่าสนใจที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นอะไรที่ยากและไม่ได้หามาได้ง่ายๆ
  4. จึงเป็นกระแส FOMO ( Fear Of Missing Out ) ที่ผู้คนไม่อยากตกกระแส ไม่อยากพลาด อยากที่จะเข้าร่วมกับเหตุการณ์เหล่านี้ ไม่เช่นนั้นจะดูเชย ล้าสมัย จะคุยกับคนอื่นไม่ได้ จึงยิ่งไขว้คว้าขอสิทธิการเข้าแอปนี้จากผู้อื่น บางรายถึงขั้นทำการซื้อ-ขายสิทธิกันเลยก็มี
  5. ประกอบกับมีคนดังมากมายเข้ามาเปิดประเด็นพูดคุยในหัวข้อต่างๆที่น่าสนใจ บางห้องมีทั้งเซเลบ ดารา คนดัง ที่เราชื่นชอบอยู่ในห้องเดียวกันเพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะได้เข้าพูดคุยหรือฟังคนเหล่านี้พูดคุยกันได้อย่างฟรีๆ แต่ในตอนนี้เราสามารถเลือกเข้าไปฟังห้องใดก็ได้ที่เราสนใจโดยไม่ต้องเดินทางไปไหนเลย และเราสามารถกดยกมือเพื่อขอแสดงความคิดเห็นก็ได้หรือจะฟังอย่างเดียวก็ได้
  6. เนื่องจากเป็นการใช้แค่เสียง ผู้พูดและผู้ฟังจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแต่งกาย ลักษณะ บุคลิกท่าทางตอนที่กำลังพูด ซึ่งต่างจากการพูดบนเวทีหรือในแอปอื่นๆ เช่น Zoom เป็นต้น
  7. มีระบบเสียงที่คมชัดเป็นอย่างมาก สามารถฟังการสื่อสารได้เป็นอย่างดี จะฟังขณะขับรถหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นอยู่ก็ได้
  8. และเนื่องจากไม่อนุญาตให้มีการบันทึกเทป และเมื่อจบการพูดคุยแล้วห้องนี้ก็จะหายไป ดังนั้นแต่ละคนจึงเฝ้ารออยู่ใน Clubhouse กันแทบทั้งวันเพื่อไม่ยอมให้ตนเองพลาดสิ่งที่น่าสนใจ
  9. ในตอนนี้ยังใช้บริการได้ฟรีอยู่ แต่เชื่อได้ว่าจะมีการเก็บค่าบริการในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน และคาดว่าน่าจะเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อเครดิตเก็บไว้ในแอป และจะเสียเครดิตเพื่อเข้าห้องต่างๆที่เราสนใจที่จะเข้าไปฟัง โดยแต่ละห้องจะเก็บค่าเข้าด้วยราคาไม่เท่ากัน

ในตอนนี้ Social Media หลายรายไม่ว่าจะเป็น Facebook , Twister , Spotify ต่างก็กำลังพัฒนาลักษณะการใช้งานคล้ายๆกับ Clubhouse อยู่ เพราะยอดผู้ใช้บริการได้ลดลงในช่วงที่ผู้คนนิยมเข้ามาใช้บริการใน Clubhouse นี้ และอาจเป็นไปได้ว่า น่าจะมีการเจรจาซื้อขายแอปนี้เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าจะตกลงกันได้หรือไม่เท่านั้น

Clubhouse แอพพลิเคชั่นยอดฮิตแห่งปี

ซึ่งในปัจจุบัน Social Media ได้มีการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานตลอดเวลา แต่แม้จะถึงขั้นนั้นก็ยังมีแอปอย่าง Clubhouse สอดแทรกขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งการตลาดของสินค้าต่างๆต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งจากที่ดูแล้ว Clubhouse น่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่อยู่คู่กับเราไปอีกนานและต้องมีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้นอีกแน่นอน

แล้วคุณล่ะเคยเข้า Clubhouse แอพพลิเคชั่นยอดฮิตแห่งปีแล้วหรือยัง